Pistachio Bean ถั่ว พิสตาชิโอ
ขนาด(Size)
หมวดหมู่ : สินค้า ,  วัตถุดิบเบเกอรี่ (Bakery) ,  ผลไม้และธัญพืช (Fruit and Whole grains) , 
Share
Pistachio Bean
ถั่ว พิสตาชิโอ
-เต็มเมล็ด
-แบบท่อน
ขนาดบรรจุ 1kg
อบด้วยไฟประมาณ 150 องศา นาน 5-15 นาทีแล้วแต่ขนาด และ ปริมาณ
ถั่วพิสตาชิโอจัดเป็นของว่างกินเล่นที่เคี้ยวเพลินจนหลายคนติดใจ แต่นอกจากรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ถั่วชนิดนี้ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลายด้านด้วย เพราะอุดมสารอาหารสำคัญหลากชนิด ทั้งยังเชื่อว่าอาจมีคุณสมบัติช่วยลดน้ำหนัก ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ และลดระดับน้ำตาลในเลือดได้
ข้อมูลทางโภชนาการของถั่วพิสตาชิโอ
ถั่วพิสตาชิโอจัดเป็นอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ โดยถั่วนี้ปริมาณ 28 กรัมจะให้พลังงานเพียง 156 แคลอรี่ และยังประกอบด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายหลายชนิด ดังนี้
โปรตีน ถั่วชนิดนี้มีโปรตีนค่อนข้างสูง โดยถั่วพิสตาชิโอ 28 กรัมจะมีโปรตีนถึง 6 กรัม ซึ่งคิดเป็น 20 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักทั้งหมด อีกทั้งยังมีกรดอะมิโนจำเป็นและกรดอะมิโนกึ่งจำเป็นในปริมาณสูงกว่าถั่วชนิดอื่น ๆ หนึ่งในนั้น คือ แอลอาร์จินีน ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยขยายหลอดเลือดและทำให้เลือดไหลเวียนได้สะดวกยิ่งขึ้น
แร่ธาตุและวิตามิน ถั่วพิสตาชิโอประกอบด้วยแร่ธาตุหลายชนิด ทั้งโพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม และทองแดง ซึ่งช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังเป็นแหล่งของวิตามินบี 6 ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายด้าน เช่น ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด หรือควบคุมการสร้างฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง เป็นต้น
สารต้านอนุมูลอิสระ ถั่วพิสตาชิโออุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ซึ่งช่วยป้องกันหรือยับยั้งความเสียหายของเซลล์ที่เกิดจากสารอนุมูลอิสระอันเป็นปัจจัยก่อโรคต่าง ๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น โดยสารต้านอนุมูลอิสระที่พบมากในถั่วชนิดนี้ ได้แก่ ลูทีน และซีแซนทิน ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยบำรุงสุขภาพดวงตา รวมถึงสารโพลีฟีนอลและโทโคฟีรอล ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งและโรคหัวใจ นอกจากนั้น ยังมีงานวิจัยที่พบด้วยว่าร่างกายสามารถนำสารต้านอนุมูลอิสระในถั่วพิสตาชิโอไปใช้ได้ง่าย เพราะสารดังกล่าวถูกดูดซึมได้ดีในทางเดินอาหาร
ถั่วพิสตาชิโอกับคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ
เนื่องจากมีสารเคมีที่สำคัญมากมายถูกพบในถั่วพิสตาชิโอ จึงทำให้เชื่อว่าถั่วชนิดนี้อาจดีต่อร่างกายในด้านต่าง ๆ และอาจมีประสิทธิภาพป้องกันโรคบางอย่างได้ด้วย ซึ่งมีงานวิจัยบางส่วนค้นคว้าเกี่ยวกับคุณประโยชน์ของถั่วพิสตาชิโอเอาไว้ ดังนี้
ลดน้ำหนัก
พืชตระกูลถั่วจัดเป็นอาหารที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก โดยเฉพาะถั่วพิสตาชิโอที่อุดมไปด้วยโปรตีนและเส้นใยอาหาร การรับประทานถั่วชนิดนี้จึงอาจช่วยให้รู้สึกอิ่มและรับประทานอาหารชนิดอื่นได้น้อยลง นอกจากนั้น ไขมันบางส่วนในถั่วพิสตาชิโอก็ไม่สามารถซึมผ่านผนังเซลล์ในทางเดินอาหารได้ ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพเพราะร่างกายได้รับไขมันน้อยลง
ทั้งนี้ มีงานวิจัยหนึ่งศึกษาคุณสมบัติของถั่วพิสตาชิโอด้านการช่วยลดน้ำหนัก โดยให้ผู้ป่วยโรคอ้วนจำนวน 31 รายรับประทานอาหารที่คำนวณแล้วว่าให้พลังงานน้อยกว่าอัตราเผาผลาญพลังงานขณะพัก 500 แคลอรี่ในแต่ละวัน ควบคู่กับให้รับประทานถั่วพิสตาชิโออบเกลืออีกวันละ 53 กรัม เป็นเวลาติดต่อกัน 12 สัปดาห์ ผลปรากฏว่าผู้ป่วยมีน้ำหนักตัวลดลง อีกทั้งยังมีค่าดัชนีมวลกายและระดับไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ในหลอดเลือดลดลงอย่างเห็นได้ชัด
สอดคล้องกับอีกหนึ่งงานวิจัยที่ศึกษาคุณสมบัติของถั่วพิสตาชิโอในด้านนี้ โดยแบ่งผู้ป่วยโรคอ้วนลงพุงจำนวน 60 รายออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่รับประทานถั่วพิสตาชิโอร่วมกับรับประทานอาหารหลักและออกกำลังกาย กับกลุ่มที่รับประทานอาหารหลักและออกกำลังกายเท่านั้น จากการทดลองเป็นเวลา 24 สัปดาห์ พบว่าโดยเฉลี่ยแล้วผู้ป่วยกลุ่มแรกมีน้ำหนักตัวและรอบเอวลดลงอย่างเห็นได้ชัด
นอกจากนั้น เมื่อเปรียบเทียบปริมาณแคลอรี่ที่ร่างกายได้รับหลังรับประทานถั่วพิสตาชิโอดิบกับถั่วพิสตาชิโอที่ผ่านการแปรรูปมาแล้ว พบว่าผู้ที่รับประทานถั่วพิสตาชิโอที่ยังไม่กระเทาะเปลือกอาจได้รับแคลอรี่ลดลงถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น ผู้บริโภคจึงควรเลือกรับประทานถั่วพิสตาชิโอที่ไม่ผ่านการแปรรูปหรือปรุงแต่งใด ๆ เพื่อผลดีต่อสุขภาพ
ขนาดบรรจุ 1kg